วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ประเทศเวียดนาม

ประเทศเวียดนาม





ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทิศเหนือติดกับจีน

ทิศตะวันตกติดกับลาว

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับกัมพูชา

ทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้และอ่าว Tonkin

ทิศใต้ติดกับอ่าวไทย

พื้นที่331,690 ตารางกิโลเมตร(ประมาณพื้นที่ 3 ใน 5 ของไทย

เมืองหลวง : กรุงฮานอย (Hanoi)

ประชากร 86 ล้านคน (2550)

ภูมิอากาศ

อากาศร้อนชื้น อุณหภูมิต่ำสุดกับสูงสุดอยู่ระหว่าง 5 องศาเซลเซียสถึง 37 องศาเซลเซียส และมีฝนตกระหว่างช่วงพฤษภาคม – กันยายน

ภาษา:ภาษาเวียดนาม

ศาสนา: ศาสนาพุทธ (มหายาน) มีจำนวนผู้นับถือมากที่สุด

หน่วยเงินตรา: เงินด่ง (1 บาท : ประมาณ 500 ด่อง ณ กุมภาพันธ์ 2551)

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ :(GDP) 73.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2550)

รายได้ประชาชาติต่อหัว :(GNI per capita) 835 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2550)

การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 6.5 (ช่วงครึ่งแรกของปี 2551)

รูปแบบการปกครองระบอบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (Communist Party of Vietnam)

ประมุข

นายเหวียน มินห์ เจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ประธานาธิบดี

หัวหน้ารัฐบาล

นายเหวียน เติน ซุง (Nguyen Tan Dung) นายกรัฐมนตรี

นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น (Nong Duc Manh) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์

รัฐบาลปัจจุบัน



1.การเมืองการปกครอง

1.1 การเมืองของเวียดนามมีเสถียรภาพและเอกภาพสูง อีกทั้งมีการกระจายอำนาจการบริหารในทางเศรษฐกิจแก่แต่ละจังหวัดเพื่อพัฒนา และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งในการเปลี่ยนผู้นำครั้งล่าสุดภายหลังการประชุมสมัชชาพรรคมิวนิสต์ เวียดนามสมัยที่ 10 เมื่อปี 2549 ได้มีการเลือกตั้งผู้นำที่มาจากทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจและมีภาพลักษณ์ของผู้นำรุ่นใหม่

1.2 ที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติเวียดนาม สมัยที่ 12 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ได้ให้การรับรองสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 จำนวน 493 คนจากผู้สมัครทั้งหมด 876 คน เป็นสมาชิกสภาแห่งชาติหน้าใหม่ 345 คน โดยได้เลือกผู้นำเวียดนาม 3 คน ได้แก่ นายเหวียน เติน ซุง นายกรัฐมนตรี นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายเหวียน มินห์ เจี๊ยต ประธานาธิบดี ซึ่งได้คะแนนเสียงร้อยละ 99.1 91.2และ 89.7 ตามลำดับ และเลือกคณะรัฐมนตรีซึ่งประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีจำนวน 5 คน และรัฐมนตรีจำนวน 22 คน รัฐมนตรีส่วนใหญ่จะได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 80 ขึ้นไป

2. เศรษฐกิจและสังคม

2.เวียดนามมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและขยายตัวอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบาย ปฏิรูปเศรษฐกิจ “โด่ย เหมย” (Doi Moi) ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2529 ปัจจุบันเวียดนามพยายามปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2550

ในการพัฒนา ประเทศ เวียดนามได้ดำเนินการแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ระหว่างปี 2549-2553 ซึ่งสรุปเป้าหมายและทิศทางของการพัฒนาประเทศในช่วง 5 ปี ดังนี้

(1) ดำเนินการตามนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ “โด่ย เหมย” (Doi Moi) เพื่อให้อัตราการเพิ่มของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเติบโตร้อยละ 8 หรือมากกว่าภายในปี 2553 (ให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 94 - 98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

(2) สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยมเพื่อก้าวสู่ความเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและทันสมัยภายในปี 2563

(3) พัฒนา knowledge - based economy

(4) ปรับปรุงคุณภาพการศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเร่งรัดพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งนี้ เวียดนามมีนโยบายเน้นหนักเรื่องการส่งเสริมธุรกิจเอกชน เร่งปฏิรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ และเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศ

2.2 ปัจจุบัน เวียดนามประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเงินด่องกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ธนาคารชาติเวียดนามต้องประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาโดยปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยพื้นฐานจากร้อยละ12 เป็นร้อยละ 14 และประกาศปรับความเคลื่อนไหวในอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินด่องกับดอลลาร์สหรัฐ ไม่เกินร้อยละ 2 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวร้อยละ 6.5 ในขณะที่มีอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 26.8 ในเดือนมิถุนายน 2551

2.3ด้านการค้าระหว่างประเทศ เวียดนามยังคงขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 เป็นมูลค่า 16,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่าการนำเข้า 45,500 ล้านดอลลร์สหรัฐ และส่งออก 28,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การแก้ไขภาวะการขาดดุลการค้าเป็นปัญหาท้าทายสำหรับเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามมีโครงการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการนำเข้าอุปกรณ์เครื่องจักรและวัตถุดิบจากต่างประเทศสูง

2.4 เวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าประมงเป็นสำคัญ 
โดย ปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากเป็นอันดับสองรองจากไทย (ประมาณ 3-4 ล้านตันต่อปี) ส่งออกพริกไทยดำและเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มากที่สุดในโลก ส่งออกกาแฟเป็นอันดับสองของโลก ส่งออกยางพาราเป็นอันดับสี่ของโลก และเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบมากเป็นอันดับสามในเอเชีย

2.5นักลงทุนต่างประเทศยังคงมีความมั่นใจในศักยภาพและบรรยากาศการลงทุนใน เวียดนาม โดยสะท้อนในรูปของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนามในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 มีมูลค่าสูงถึง 31,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2550 ถึง 3.7 เท่า การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศจำนวนมากอย่างต่อเนื่องส่งผลให้การสำรอง เงินตราต่างประเทศของเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 2 เท่าในรอบปีที่ผ่านมา



information 

Location: Located in the eastern region of Southeast Asia. 

North, China 

West to Laos 

Southwest with Cambodia. 

East, the South China Sea and the Gulf of Tonkin. 

South to the Gulf of Thailand 

331,690 area Square kilometers (about three in five areas of Thailand. 

Capital: Hanoi 

Population of 86 million (2550). 

climate 

Humid The maximum temperature is between 5 ° C to 37 ° C and rain during May to September. 

Languages​​: Vietnamese 

Religion: Buddhism (Mahayana) were the most respected. 

Currency: Dollar (1 baht: the estimated $ 500 in February 2551). 

Gross Domestic Product: (GDP) 73.5 billion (2550). 

National income per capita: (GNI per capita) 835 dollars (2550). 

The economic growth of 6.5 percent (first half of 2551). 

Style socialist regime By Communist Party of Vietnam 
Head 

Mr. Nguyen Minh Jia, T. (Nguyen Minh Triet) president. 

head of government 

Mr. Prime Minister Nguyen Tan timber. 

Mr Duc persistent Party Secretary position. 

the current government 



1. Politics 

1.1 Vietnam's political stability and high autonomy. Moreover, the administrative decentralization in the economic development of the province. And promote foreign investment. In the last leadership change after the Munich Conference of the post. Vietnam was the 10th in 2549 to the election of leaders from both the North and South. The experience economy and the image of the new leaders. 

1.2 The National Assembly of Vietnam was the 12th of July 2550 a certified member of the National Assembly elected last May 2550 on 493 people who all 876 members of the National Council page 345 persons have selected. the Vietnam three members, namely Mr. Nguyen Tan Forest Minister Mr. location Duc persistent Party Secretary and Mr. Nguyen Minh Jia, President of the percent of the votes, 99.1 91.2 and 89.7, respectively, and selected. Cabinet, which consists of 5 members and deputy prime ministers and 22 ministers, most people will get up to 80 percent of the vote. 

2 Economic and Social 

2 Vietnam has a high economic potential and continues to grow under the policy. Economic reform "My Mei" (Doi Moi), which began in 2529 Vietnam to amend the regulations. Comply with the requirements of the World Trade Organization (WTO), which Vietnam is a member, on January 11, 2550. 

In developing countries, Vietnam has undertaken a National Social and Economic Development Plan No. 5 for the year 2549-2553 which outlines the goals and directions of development in the last 5 years. 

(1) implementation of policy reforms "My Mei" (Doi Moi), so that the growth rate of GDP growth of 8 percent or more by the year 2553 (the gross domestic product in the country rose to 94. - 98 billion dollars). 

(2) strengthen the socialist market economic system to become a modern and developing countries by the year 2563. 

(3) develop a knowledge - based economy. 

(4) improve the quality of education. Science and Technology And accelerate the development of human resources, Vietnam's policy emphasis on promoting private sector. Accelerate reform of state enterprises, and invite foreign investment. 

2.2 Vietnam Economic troubles. Both higher inflation and exchange rate dong to the dollar. The Bank of Vietnam announced measures to resolve the problems raised. Basic interest of 12 percent or 14 percent, and announced to the movement in the dollar exchange rate to the dollar. No more than 2 percent in the first half of 2551, Vietnam's economy grew 6.5 percent, while the inflation rate of 26.8 percent in June 2551. 

2.3 The Trade Vietnam still lack balance increased during the first half of 2551 was worth 16,900 million. The import value was USD 45,500 million and 28,600 million dollars in exports. Fixing the trade deficit is a challenge for Vietnam. Because Vietnam has increased foreign investment projects. There was a need to import equipment and raw materials from abroad. 

2.4 Vietnam is a country that exports of agricultural and fishery products is important. 
At present, Vietnam is the country's rice exports from Thailand were ranked second (about 3-4 million tons per year) exports of black pepper and cashew nuts in the world. Coffee is the second largest exporter in the world. The world's fourth-largest timber exporters. And the country was the third largest oil exporter in Asia. 


2.5 Foreign investors still have confidence in the potential and investment climate in Vietnam is reflected in the form of direct investment abroad (FDI) in Vietnam during the first 6 months of 2551 amounts to 31,600 billion. Increase from the same period in 2550 to 3.7 times the inflow of capital from abroad continuously contributed to the book. Vietnam's foreign rapidly increased almost two-fold in the past year.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น